เมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พลเอกณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ พร้อมนายทหารจากกรมราชองครักษ์ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย และชมรมผู้รู้คุณแผ่นดิน นำถุงยังชีพพระราชทาน อาหาร น้ำดื่ม ผ้าเช็ดตัว และผ้าห่มกันหนาว พร้อมจตุปัจจัยไปถวายแด่พระสงฆ์ พร้อมนำอาหารและสิ่งของไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่วัดสามกอ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการการทหาร วุฒิสภา และคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร นำยาแก้น้ำกัดเท้าไปมอบด้วย พร้อมกันนี้ ร่วมกันกล่าวคำถวายพระพร พร้อมนั่งสมาธิเจริญจิตภาวนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ให้มีพระพลานามัยสมบูรณ์ แข็งแรง
โดยครูโอ๋ หัวหน้า กศน.ตำบลสามกอ ได้ไปร่วมในพิธีด้วยค่ะ ตอนเพลมีพิธีถวายเพลพระสงฆ์ ๘๔ รูป หลังจากนั้นผู้แทนพระองค์ ได้มอบถุงพระราชทานจากสมเด็จพระราชชินีให้กับชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุกว่า ๕๐๐ คน สร้างความปลื้มปิติยินดีให้กับผู้สูงอายุอย่างมากค่ะ
วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554
กศน.ตำบลสามกอ แบ่งปั้นห้องเรียนธรรมะสู่น้องๆนักเรียนโรงเรียนวัดสามกอ
ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม..
เป็นหัวข้อธรรมะที่พระอาจารย์ตั้งกระทู้ถามนักเรียนชั้น ป.๓ จากโรงเรียนวัดสามกอ ซึ่งได้มาขอให้ กศน.ตำบลสามกอ เป็นห้องเรียนธรรมะนอกสถานที่ในวันนี้ เนื่องจากเห็นว่า ห้องเรียน กศน.ตำบลสามกอ อยู่ในบริเวณวัด และมีโต๊ะ เก้าอี้ และโทรทัศน์ ETV พร้อมให้บริการ ที่สำคัญห้องสมุด กศน.ตำบลสามกอยังมีหนังสือธรรมะไว้ให้น้องๆได้มาค้นคว้าข้อมูลอีกมากมายโดยการรอบรวมของ อาจารย์บุญส่ง สุภีชะวี ค่ะ
วันนี้จึงรู้สึกยินดีและมีความสุข ที่ได้แบ่งปัน กศน.ตำบล ให้น้องๆได้มาใช้เป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อศึกษาธรรมะร่วมกัน
สื่บเนื่องจากรูปภาพ เก็บเกร็ดเกี่ยวกับหัวข้อธรรมมาอธิบายต่อ
จาก เว็บ http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=6ddaf001ce113db5
อธิบายหัวข้อธรรม " ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม"
หากเราหมั่นเจริญสติคอยรู้ตัว เจริญปัญญาคอยรู้คิดพิจารณา
รวมถึงฝึกฝนคุณธรรมด้านอื่นๆ จนเป็นนิสัยฝังอยู่ในสันดาน
คุณธรรมเหล่านี้ย่อมช่วยให้เรามีความสบายใจทั้งในปัจจุบัน และวันต่อไปข้างหน้า
ตรงกันข้ามกับลาภ ยศ สรรเสริญ ซึ่งเป็นทรัพย์ภายนอก
ที่เราควบคุมเหตุปัจจัยได้เพียงบางส่วน
เมื่อใดที่หมดบุญเก่า (เช่นตาย) เมื่อใดที่บาปเก่าตามทันและให้ผล
เมื่อนั้นเราต้องพลัดพรากจากสิ่งเหล่านี้
(ผู้ที่มีสัมมาทิฐิคือเห็นว่าตายแล้วต้องเกิดอีก
ตราบเท่าที่ตัณหายังไม่สิ้นไปจากสันดาน
จะให้คุณค่ากับการพัฒนาจิตใจของตนเอง
มากกว่าการแสวงหาและรักษาทรัพย์สมบัติภายนอกที่ตายแล้วนำติดตัวไปไม่ได้
ผู้มีสติปัญญาย่อมเข้าใจว่าความสบาย ลาภ ยศ สรรเสริญ
เป็นเพียงผลพลอยได้จากการตั้งตนอยู่ในธรรม
เมื่อถึงคราวที่ต้องสูญเสียก็จะไม่รู้สึกเสียดายหรือหวงแหน
ตรงกันข้ามกับคนที่เมาความสบาย เมาลาภ เมายศ เมาสรรเสริญ
เมื่อถึงคราวสูญเสียก็ไม่สามารถทำใจยอมรับได้ และพยายามรักษาไว้โดยไม่เลือกวิธีการ
ไม่สนใจว่าสิ่งที่ตนทำเป็นการเบียดเบียนผู้อื่นหรือไม่
คนเช่นนี้ถือว่าขาดสติปัญญา ประพฤติในสิ่งที่เป็นโทษต่อตนเองด้วยความไม่รู้
แม้จะรักษาความ สบาย ลาภ ยศ สรรเสริญไว้ได้ชั่วคราว
แต่ก็ต้องพบกับความเดือดร้อนในภายหลัง
และเมื่อถึงคราวที่อกุศลให้ผล
ความสบาย ลาภ ยศ สรรเสริญ ก็ช่วยให้เขามีความสุขใจไม่ได้)
รวมถึงฝึกฝนคุณธรรมด้านอื่นๆ จนเป็นนิสัยฝังอยู่ในสันดาน
คุณธรรมเหล่านี้ย่อมช่วยให้เรามีความสบายใจทั้งในปัจจุบัน และวันต่อไปข้างหน้า
ตรงกันข้ามกับลาภ ยศ สรรเสริญ ซึ่งเป็นทรัพย์ภายนอก
ที่เราควบคุมเหตุปัจจัยได้เพียงบางส่วน
เมื่อใดที่หมดบุญเก่า (เช่นตาย) เมื่อใดที่บาปเก่าตามทันและให้ผล
เมื่อนั้นเราต้องพลัดพรากจากสิ่งเหล่านี้
(ผู้ที่มีสัมมาทิฐิคือเห็นว่าตายแล้วต้องเกิดอีก
ตราบเท่าที่ตัณหายังไม่สิ้นไปจากสันดาน
จะให้คุณค่ากับการพัฒนาจิตใจของตนเอง
มากกว่าการแสวงหาและรักษาทรัพย์สมบัติภายนอกที่ตายแล้วนำติดตัวไปไม่ได้
ผู้มีสติปัญญาย่อมเข้าใจว่าความสบาย ลาภ ยศ สรรเสริญ
เป็นเพียงผลพลอยได้จากการตั้งตนอยู่ในธรรม
เมื่อถึงคราวที่ต้องสูญเสียก็จะไม่รู้สึกเสียดายหรือหวงแหน
ตรงกันข้ามกับคนที่เมาความสบาย เมาลาภ เมายศ เมาสรรเสริญ
เมื่อถึงคราวสูญเสียก็ไม่สามารถทำใจยอมรับได้ และพยายามรักษาไว้โดยไม่เลือกวิธีการ
ไม่สนใจว่าสิ่งที่ตนทำเป็นการเบียดเบียนผู้อื่นหรือไม่
คนเช่นนี้ถือว่าขาดสติปัญญา ประพฤติในสิ่งที่เป็นโทษต่อตนเองด้วยความไม่รู้
แม้จะรักษาความ สบาย ลาภ ยศ สรรเสริญไว้ได้ชั่วคราว
แต่ก็ต้องพบกับความเดือดร้อนในภายหลัง
และเมื่อถึงคราวที่อกุศลให้ผล
ความสบาย ลาภ ยศ สรรเสริญ ก็ช่วยให้เขามีความสุขใจไม่ได้)
วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2554
กิจกรรมดีๆที่นักศึกษา กศน.ตำบลสามกอร่วมกันทำ
วันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๔
นักศึกษา กศน.ตำบลสามกอ กลุ่มหนึ่งได้แก่ นส.อัจฉราพรรณ มหาวัตร ประธานองค์กรนักศึกษา กศน.ตำบลสามกอ และเพื่อนๆ ได้แก่ น้องไอซ์,เจมส์,พิซซ่า และ แอ๋ม ได้ใช้เวลาในวันช่วงวันว่างไม่ได้ไปทำงานและไม่ใช่วันเรียนหนังสือ ไปช่วยกันจัดมุมหนังสือ เพื่อส่งเสริมการอ่านในชุมชน ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน ตำบลสามกอ (สมัยก่อนเรียกว่า สถานีอนามันสามกอค่ะ) พร้อมติดป้ายประชาสัมพันธ์รณรงค์ส่งเสริมการอ่านที่มีนายฟิมล์ รัฐภูมิ เป็นฟรีเซนเตอร์บริเวณด้านหน้า รพ.สต.ตำบลสามกอ อีกด้วย
ภาพแรก:ช่วยกันขนหนังสือขึ้นรถ/ภาพที่สอง:ช่วยกันจัดหนังสือและติดป้ายประชาสัมพันธ์รักการอ่าน
ภาพสุดท้าย:ถ่ายรูปกับหมอโหน่งเป็นที่ระลึกค่ะ
วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2554
กศน.ตำบลสามกอ ร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคล
เนื่องในวันสำคัญ ๕ ธันวาคม ปีนี้ เป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระชนมายุครบรอบ ๘๔ พรรษา ทางเทศบาลตำบลสามกอ และวัดสามกอ จึงจัดพิธีถวายพระพรชัยมงคลขึ้น ณ ศาลาทำบุญวัดสามกอ โดยในช่วงเช้า จะมีการทำบุญเช้าตามปกติ หลังจากถวายข้าวพระ กรวดน้ำ เสร็จ เหล่าข้าราชการ เทศบาลตำบลสามกอ,ครู กศน.ตำบลสามกอ ,นศ.กศน.ตำบลสามกอ และชาวบ้านตำบลสามกอ ก็จะมาจัดแถวใหม่เพื่อ ร่วมพิธีถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยมีอาจาย์บุญส่ง สุภีชะวี เป็นประธานดำเนินงาน
อาจารย์บุญส่ง สุภีชะวี ขณะกล่าวคำถวายพระพร
ครูและนักศึกษา กศน.ตำบลสามกอ ขณะร่วมพิธี
เมื่อเสร็จสิ้นพิธี เหล่าข้าราชการเทศบาลตำบลสามกอ ครูและนักศึกษากศน.ตำบลสามกอ และประชาชนที่มาร่วมในพิธีต่างก็ช่วยกันทำความสะอาดวัดสามกอ ทั้งเก็บกวาดเช็ดถู เพื่อให้วัดสะอาดและสวยงามซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความดีที่ทำเพื่อในหลวงในโอกาศ ที่ทรงพระชนมพรรษษ ๗ รอบ ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ นี้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)